บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

วัดที่สวยงามที่้สุด วัดร่องขุ่น


                      สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดในประเทศในในสายตาเราเลยก็ว่าได้วัดร่องขุ่น
โดยเมื่อไปจังหวัดเชียงรายจะอยู่ซ้ายมือ แปลกใจใช่ไหมหล่ะว่าทำไม วัดสีขาว วัดนี้้เป็นวัดที่ออกแบบก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์  ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้  โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือ
คุณวันชัย วิชญชาคร  จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่ และมีพระกิตติพงษ์ กัลยาโณ รักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

เสน่ห์เจดีย์ทรงมอญที่ "พระธาตุหินกิ่ว ดอยดินจี่"


"พระธาตุหินกิ่ว ดอยดินจี่" ตั้งอยู่ที่บ้านวังตะเคียน หมู่ที่ 5 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก วัดพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่มีพระธาตุประดิษฐานอยู่ในสถูปเจดีย์ชาวบ้านเรียกว่า "พญาล่อง" ตั้งอยู่บนภูเขา ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญขนาดเล็ก สร้างไว้บนก้อนหินด้วยแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นความมหัศจรรย์จากธรรมชาติ ลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนชะง่อนผากิ่วคอดเหมือนจะขาดออกจากกัน ชาวบ้านเรียกหินมหัศจรรย์นี้ว่า "เจดีย์หินพระอินทร์แขวน"

     พระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ เล่าสืบต่อกันมาว่า ผู้สร้างเป็นชาวกะเหรี่ยงในสมัยที่อังกฤษปกครองพม่า ชื่อว่านายพะส่วยจาพอ ได้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก ได้นำเงินตราเหรียญรูปีบรรทุกหลังช้างมาเพื่อหาที่สำหรับสร้างเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา ครั้นมาถึงบริเวณผาหินกิ่ว (หรือดินจี่) ได้มองเห็นหินก้อนใหญ่ชะโงกงำตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน และมีลักษณะคล้ายกับเจดีย์พระอินทร์แขวนในประเทศพม่า จึงได้ทำการก่อสร้าง เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำพระสารีสริกธาตุบรรจุไว้ในองค์เจดีย์ พร้อมกับพระพุทธรูปทองคำจำนวน 5 องค์


วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ย้อนรอยละคร "รอยไหม" ที่คุ้มวงศ์บุรี เสน่ห์สีชมพู คู่เมืองแพร่

 

 

คุ้มวงศ์บุรี  Wongburi House  จ.แพร่

           หรือ บ้านวงศ์บุรี ดำเนินการสร้างโดยเจ้าพรม ( หลวงพงษ์พิบูลย์ ) และเจ้าสุนันตา วงศ์บุรี (หลานสาวเจ้าบัวถา) โดยดำริของ เจ้าบัวถา ชายา เจ้าพิริยะเทพวงศ์ (เจ้าเมืองแพร่องค์สุดท้าย) ซึ่งมีอาชีพทำสัมปทานป่าไม้ โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2440 คุ้มวงศ์บุรีเป็นอาคารไม้สักทอง 2 ชั้น หลังคาทรงปั้นหยา รูปแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป ประดับลวดลายแบบเรือนขนมปังขิง ซึ่งเป็นรูปแบบนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 ก่อสร้างโดยช่างจีนชาวกวางตุ้งและผู้ช่วยชาวไทย
ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ ประกอบด้วย เครื่องใช้ไม้สอยในยุคนั้น อาวุธโบราณ พระพุทธรูปโบราณ รูปภาพเก่าแก่ เอกสารการขอสัมปทานป่าไม้ในอดีต
ความสมบูรณ์และสวยงามของคุ้มวงศ์บุรี นั้นยังได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ปี 2536 ของสมาคมสถาปนิกสยามอีกด้วย

สมุทรปราการ : สถานตากอากาศบางปู


จุดเด่นของที่นี่นอกจากทะเลแล้ว ยังมี

         "สะพานสุขตา" สะพานไม้สักที่ทอดยาวออกไปในทะเลถึง 500 เมตร แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสะพานปูนในปี 2535 เนื่องด้วยเพราะชำรุดหนัก"สะพานสุขตา" เป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นของสถานตากอากาศบางปู นอกจากนี้ยังเป็นจุดดูนก และจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามแห่งหนึ่ง ปลายสะพานเป็นที่ตั้งของศาลาที่มีชื่อว่า "ศาลาสุขใจ" ซึ่งในอดีตเมื่อ 60 ปีก่อน มีฟลอร์ลีลาศแบบมาตรฐานที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงสังคมชั้นสูง


        สถานตากอากาศบางปูจึงเป็นแหล่งพบปะของหนุ่มสาวในสมัยก่อนด้วยมีกิจกรรมที่สามารถทำด้วยกันมากมายและที่แห่งนี้ยังมีตำนานรักของคนรุ่นปู่ย่าตายายของเราอีกด้วย ลองคิดดูว่าที่นี่จะโรแมนติกขนาด ไหนช่วงบ่ายๆ พากันมาดูนกนางนวลและต่อด้วยดูพระอาทิตย์ตกดินอีกแค่คิดก็ยิ้มแล้ว

พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม



พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม

          วัดสมานรัตนาราม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยความสวยงามตระการตาและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข ซึ่งเป็นพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะนั่งกึ่งนอนตะแคงบนฐาน เนื้อองค์พระพิฆเนศเป็นสีชมพู พระหัตถ์ซ้ายถืองาช้างหักพระหัตถ์ขวาถือดอกบัว ฐานด้านล่างล้อมรอบด้วยองค์พระพิฆเนศทั้งสิ้น 32 ปาง
ด้วยความงดงามยิ่งใหญ่ตระการตา ประกอบกับความหมายของพระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุขที่เป็นมงคลยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวที่เมืองแปดริ้วแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมประวัติความเป็นมาของวัดสมานรัตนารามและเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับองค์พระพิฆเนศให้ได้เรียนรู้กันอีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่วัดสมานรัตนาราม  โทรศัพท์  08 1983 0400

วัดพระธาตุลำปางหลวง


             เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตามตำนานกล่าวว่า มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 ตอนปลาย เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายได้แก่
            พระธาตุลำปางหลวง
  เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปรฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลูเช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้าน ภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุน เป็นลวดลายประจำยามแบบต่าง ๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อพระธาตุหริภุญไชย และพระบรมธาตุจอมทอง ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระธาตุมีรูกระสุนปืนที่หนานทิพย์ช้างยิงท้าวมหายศปรากฏอยู่

วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554

สัมผัสเสน่ห์ร่องหินผาที่ "ออบขาน"


     "อุทยานแห่งชาติออบขาน" อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยจุดเด่นของอุทยานนั้นคงหนีไม่พ้น "ออบขาน" จุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาเที่ยวชมเสมอๆ... 

     ออบขาน
ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นหน้าผาหินสูงชันสองด้านหันเข้าหากัน โดยมีน้ำแม่ขานไหลผ่านตรงกลาง หน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร

     โดยสันนิษฐานว่าลักษณะดังกล่าวเกิดจากยกตัวของเปลือกโลกเมื่อหลายล้านปีก่อน ผ่านการกัดเซาะของกระแสน้ำ ทำให้หินมีรูปร่างต่างๆ สวยงามแปลกตา เป็นประติมากรรมชิ้นเอกที่ธรรมชาติได้เป็นผู้สร้างสรรค์เอาไว้